ตระกูล Dyna คือโมเดลที่ Harley-Davidson ยกเลิกไปในปี 2018 และเปิดตัวตระกูล Softail ขึ้นมาแทน แฟนฮาเลย์หลายคนไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และการมีโมเดลตระกูล Dyna บางรุ่นอยู่ในตระกูล Softail ก็ยิ่งทำให้งงมากกว่าเดิม ในบทความนี้เรามาดูกันว่า สาเหตุใดที่ทำให้ฮาเลย์ตัดสินใจบอกลาตระกูล Dyna ไปทั้ง ๆ ที่แฟนหลายคนก็ชื่นชอบโมเดลตระกูลนี้มากเหลือเกิน
ต้องเกริ่นก่อนว่าในปี 2016 ยอดขายของฮาเลย์ได้ตกลงมาก เป็นเหตุให้บริษัทเริ่มพัฒนาตระกูล Softail ออกมา ซึ่งเป็นกลุ่มมอเตอร์ไซค์ที่มีน้ำหนักเบากว่า มีเครื่องยนต์ใหม่กว่า และมีการควบคุมที่เหนือกว่า เพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่นคนเมือง รวมถึงลูกค้าสุภาพสตรี
โดยทั่วไปตระกูล Softail จะเน้นความสะดวกสบายในการขับทางไกล มีดีไซน์สวยงามเหมือนกับครุยเซอร์แบบ hardtail ในยุคก่อน แต่ซ่อนโช๊คเดี่ยวไว้อยู่ใต้บังโคลนหลัง อีกทั้งแรงสั่นจากเครื่องยนต์ที่ส่งมาถึงผู้ขับจะน้อยกว่าตระกูล Dyna อีกด้วย ทำให้ผู้ขับหน้าใหม่กล้าที่จะลองขับฮาเลย์มากขึ้น
ส่วนตระกูล Dyna เปรียบเหมือนกับตระกูล Sportster ที่มีการอัพเกรด คือมีความสปอร์ตและความดิบเหมือนกัน แต่มีขนาดรถที่ใหญ่กว่า มีเครื่องยนต์ที่ทรงพลังและภาพลักษณ์ที่ดุดันกว่า โมเดลแรกของตระกูล Dyna คือ FXDB Sturgis ที่เปิดตัวในปี 1991
ตระกูล Dyna ยังมีความคล้ายกับกลุ่ม Super Glide ในยุค 70 และ 80 ที่มีฟีลแบบ retro ย้อนยุค และเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ อย่างมากในช่วงเวลานั้น ถือเป็นกลุ่มรถที่มีประวัติศาสตร์และคาแรคเตอร์แบบฉบับฮาเลย์ที่ชัดเจน และเป็นเสน่ห์ที่ตระกูลอื่นของฮาเลย์ไม่สามารถทดแทนได้
หนึ่งในสาเหตุหลักที่ฮาเลย์ต้องยกเลิกการผลิตโมเดลตระกูล Dyna ไป คือกลยุทธ์ระยะยาวของ นายแมท เลวาติช CEO คนปัจจุบันของ Harley-Davidson ที่ตั้งเป้าว่าจะผลิตโมเดลใหม่ออกมาให้ได้ 100 คันภายใน 10 ปี และมีผู้ขับฮาเลย์หน้าใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านคนทั่วโลกภายใน 8 ปี โดยมุ่งเน้นลูกค้ากลุ่มใหม่อย่างวัยรุ่นคนเมืองรวมถึงลูกค้าสุภาพสตรีมากขึ้น บวกกับการที่โมเดลตระกูล Dyna ไม่สามารถรองรับเครื่องยนต์เจนใหม่อย่าง Milwaukee-Eight ได้ ก็ยิ่งทำให้การตัดสินใจครั้งนี้ง่ายมากขึ้น
ตัวอย่างของโมเดลตระกูล Dyna จะมี FXDB Sturgis ในปี 1991, FXDB Daytona ในปี 1992, FXDL Dyna Low Rider และ FXDWG Dyna Wide Glide ในปี 1993 และ FXD Dyna Super Glide ในปี 1995 ส่วนรุ่นหลังๆ ที่ใช้โครงรถ Dyna แบบใหม่จะเป็น FXDBI Street Bob ในปี 2006 และ FXDF Fat Bob ในปี 2008 เป็นต้น
นอกจากตระกูล Dyna แล้ว อีกตระกูลของฮาเลย์ที่ถูกยกเลิกไปในปี 2018 ก็คือกลุ่ม V-Rod มอเตอร์ไซค์สปอร์ตสไตล์รถแข่ง พร้อมเครื่องยนต์ Revolution ระบายความร้อนด้วยของเหลว ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2001
การเปิดตัวของ V-Rod เป็นการสลัดดีไซน์ย้อนยุคแบบเดิมๆ ออกไป และนำความโมเดิร์นทันสมัยเข้ามาแทน แต่ด้วยยอดขายที่ไม่ติดตลาดเท่าที่ควร บริษัทจึงได้ตัดสินใจยกเลิกโมเดลกลุ่มนี้ไป เพื่อเป็นการลดต้นทุนและจัดสรรตระกูลใหม่ในปี 2018 ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
แม้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ฮาเลย์จะมีส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐมากถึง 50% คู่แข่งอย่าง Indian Motorcycle ก็เริ่มมาชิงส่วนแบ่งในตลาด โดยเฉพาะจากลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นมากขึ้นแล้ว การสร้างตระกูล Softail เข้ามาแทนที่ Dyna และ V-Rod อาจจะดูเหมือนการพัฒนาทั่วไปในด้านวิศวกรรมยานยนต์ของฮาเลย์ แต่ในภาพกว้างกว่านั้น ฮาเลย์กำลังสร้างลูกค้ากลุ่มใหม่ทั่วโลกกว่า 2 ล้านคนขึ้นมาอยู่ต่างหาก และนี่ยังไม่รวมถึงมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าหรือมอเตอร์ไซค์สไตล์ Adventure ที่บริษัทเตรียมจะเปิดตัวในปีสองปีนี้
แหล่งที่มา
https://www.fool.com/investing/2017/09/11/harley-davidson-killing-off-dyna-to-win-riders.aspx
รูปภาพ
Darkrider.net แปล
——————-
ติดตามเรื่องราว Harley Davidson ตอนก่อนๆได้ที่ Darkrider.net
คิดถึง Harley คิดถึงเรา Darkrider.net มือหนึ่งเรื่อง Harley